ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกชีวิตคู่ผิด ทุกวันนี้มีชีวิตขมขื่นเพราะตัดสินใจพลาดแท้ๆ ช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมีเพื่อนฝูงหลายคนรุมจีบ แต่พอพี่หลงซึ่งเป็นคนทำงานมาจีบ ดิฉันกลับเปิดทางให้กับตัวเอง เพราะคิดว่าอนาคตจะดีกว่าคนรุ่นเดียวกัน พี่หลงขับรถไปรับไปส่งดิฉัน ให้ความสุขสบายในช่วงปลายมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเรียนจบเราจึงแต่งงานกัน ชีวิตคู่ช่วงแรกมันทำให้ดิฉันเข้าใจเขามากขึ้น เขาเป็นคนติดเล่นพนันบอลอย่างหนัก เขาสร้างปัญหาให้กับครอบครัว เงินทองสินสอดที่ได้มาเริ่มร่อยหรอ เราเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น งานที่บริษัทของพี่หลงก็เริ่มประสบปัญหา เพราะเงินขาดมือ ดิฉันรู้สึกเศร้าใจกับชีวิต ไม่อยากไปปรับทุกข์กับเพื่อน ได้แต่เก็บเงียบไว้ในใจคนเดียว

วันหนึ่งพวกบรรดาเพื่อนเก่านัดเลี้ยงกันบนห้าง โดยมีนายซ้งเพื่อนร่วมรุ่นตัวแสบ ที่เตรียมจะแต่งงานกับแฟนเขา นายซ้งนัดเพื่อนๆ มาโดยมีจุดประสงค์ เพื่อเตรียมแจกการ์ดงานแต่ง ดิฉันไปร่วมกินเลี้ยงกับเขาด้วย หลายคนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน ดิฉันได้แต่ปดเพื่อนๆ ไปว่า ดิฉันมีความสุขดี ระหว่างที่เราจะเริ่มรับประทานอาหารกัน ยัยจันเพื่อนสนิทก็สะกิดดิฉัน หลังเห็นผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในร้าน ดิฉันเห็นเขาแล้วแอบสะดุ้งในใจ เพราะเขาก็คือ ตุ้ย เพื่อนชายที่เคยสนิทดิฉันนั่นเอง ดิฉันนึกย้อนภาพความหลังแล้วรู้สึกผิด ตุ้ยเป็นเพื่อนที่ดี เราสองคนเหมือนเป็นแฟนกันในช่วงเรียนอยู่ปี 3 แต่เพราะความเห็นแก่ความสุขความสบาย ดิฉันจึงตัดสินใจเลือกพี่หลง

ช่วงนั้นตุ้ยเป็นแค่นักศึกษาธรรมดา ฐานะทางบ้านก็ยังไม่มั่นคงนัก เมื่อพี่หลงมาจีบดิฉัน คอยเอาใจไปรับไปส่ง มันทำให้ดิฉันไขว้เขวก่อนทำให้เขาเสียใจ ดิฉันจำได้ว่า ก่อนเลิกกับตุ้ย เขาร่ำไห้อย่างเสียใจ หลังที่รู้ว่าดิฉันเลือกพี่หลงเพราะเรื่องฐานะ เขาอวยพรให้ดิฉันโชคดี แต่ในใจดิฉันรู้ว่า เขาคงมีความเจ็บแค้นดิฉันบ้างแน่นอน แม้กระทั่งวันแต่งงาน เขาก็ไม่โผล่มาให้ดิฉันเห็นหน้า มีแต่การ์ดช่วยซองมาโดยอวยพรสั้นเหมือนเดิมว่า ขอให้โชคดี

จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลาสามปีแล้ว ที่ดิฉันไม่ได้พบกับเขาเลย ตุ้ยเดินเลยไปนั่งหัวโต๊ะ เพื่อนๆ หลายคนทักเขาอย่างชื่นชม ยัยจันแอบกระซิบว่า ตุ้ยกลายเป็นคนดังในสังคม เขาร่ำรวยและมีชื่อเสียง เขากลายเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีฐานะ เมื่อเขาเหลือบมองมาเห็น ดิฉันได้แต่ยิ้มให้ ตุ้ยเดินแจกนามบัตรให้เพื่อนๆ รวมทั้งดิฉันด้วย เขาทักทายดิฉันอย่างสุภาพและดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น คาดว่าเรื่องในอดีตระหว่างเราเขาคงลืมไปแล้ว หลังงานเลี้ยง เราแยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนจากกันตุ้ยย้ำว่า เรายังเป็นเพื่อนกัน หากมีปัญหาหรือมีเรื่องที่เขาช่วยเหลือได้ก็ขอให้บอก ระหว่างทางกลับบ้านยัยจันเอ่ยเรื่องตุ้ยจนทำให้ดิฉัน ไม่สบายใจ โดยเฉพาะเรื่องฐานะของตุ้ยในขณะนี้ เมื่อเปรียบเทียบพี่หลงที่นับวันจะย่ำแย่ลงเรื่อยๆ

อีกอาทิตย์ต่อมา พี่หลงทำให้ดิฉันช็อกเมื่อเขามาบอกว่า เขาเป็นหนี้หลายแสนต้องการใช้เงินด่วนภายในอาทิตย์นี้ อยากให้ดิฉันไปหามาให้ด้วย ดิฉันปฏิเสธเขาไปตามตรง เพราะสมบัติหลังแต่งงานถูกเขาผลาญจนหมดแล้ว เขาย้ำว่า หากหาไม่ได้จะไม่มาให้เห็นหน้าอีก ดิฉันหน้าเสีย ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เพราะสิ่งที่ดิฉันกลัวที่สุดในเวลานี้คือ การล้มเหลวในชีวิตคู่ ดิฉันใช้เวลาสองวันบากหน้าไปหาเพื่อน แต่เงินที่พี่หลงต้องการถึงครึ่งล้าน ต่อให้สนิทกันแค่ไหนก็ไม่มีใครอยากให้ เพื่อนฝูงของดิฉันทุกคนปฏิเสธหมด เมื่อดิฉันบอกกับเขาตรงๆ ว่า ดิฉันเดือดร้อนเพราะพี่หลง ทุกคนก็ส่ายหัว เขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พี่หลงติดหนี้พนัน ช่วยเหลือไปคราวนี้ เรื่องก็ยังไม่จบ ครั้งต่อไปก็มีอีก

เมื่อล้มเหลวจากเพื่อนฝูง ดิฉันไม่อยากเจอหน้าพี่หลง แต่เขาก็พยายามไล่จี้ถาม ดิฉันพยายามชี้แจงแล้วว่า ดิฉันยังหาให้ไม่ได้ เขาโกรธจัดถึงกับขว้างปาข้าวของในบ้านก่อนออกจากบ้าน ไป ดิฉันได้แต่ร่ำไห้ เมื่ออยู่คนเดียวกลับนึกถึงตุ้ยได้ เขาน่าจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของดิฉันในเวลานี้ ดิฉันโทร.ติดต่อเขาไป แต่เขาไม่ยอมรับสายให้ฝากข้อความไว้ ดิฉันจึงตัดสินใจไปหาเขาที่บริษัทเพราะทนรอไม่ได้ เลขาฯ หน้าห้องของตุ้ยไม่รู้จักดิฉัน เธอให้รอเป็นชั่วโมงๆ จนกระทั่งเขาเรียกให้เข้าไปพบได้

ตุ้ยงงที่ดิฉันไปหา เขาจึงพาดิฉันออกไปหาอะไรทานข้างนอกในช่วงบ่าย เขาถามดิฉันเหมือนคนห่างไกล มันไม่เหมือนสมัยที่เราเคยคบกัน จนดิฉันรู้สึกอึดอัดเป็นที่สุดเมื่อดิฉันเอ่ยปากถามเขาตรงๆ เรื่องเงิน เขาถามว่าทำไมเดือดร้อนมากขนาดนั้น ดิฉันอ้อมแอ้มไม่อยากบอกเขาว่า ดิฉันต้องทนลำบากก็เพราะพี่หลง เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบ ดิฉันจึงสารภาพไปตามตรง แววตาของตุ้ยเริ่มแข็งกร้าวอย่างเห็นได้ชัด จู่ๆ เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนดิฉันตกใจ

ตุ้ยย้ำว่า ทุกวันนี้เงินทองหายากมาก ไม่ค่อยมีใครให้หยิบยืมกันหรอก ระหว่างเราก็ไม่ใช่เพื่อนสนิทกันแล้ว ช่วงสมัยที่เขาเรียนอยู่เขาก็ลำบาก พยายามทุ่มเทเพื่อคนรัก หวังอนาคตจะได้อยู่ร่วมกัน แต่คนที่เขารักกับเลือกคนที่ดูมั่งมีโดยไม่แยแสเขา ดิฉันรู้ดีว่า ตุ้ยกำลังหมายถึงดิฉัน เขายังคงโกรธเรื่องในอดีตนั่นเอง

เขา ย้ำต่อว่า หากดิฉันจะยืมเงินจำนวน 5 แสนก็ได้แต่เขามีข้อแม้ว่า ดิฉันต้องไปหลับนอนกับเขาสองครั้ง ครั้งแรกเขาจะตีเช็คให้ 2 แสน ส่วนครั้งที่ 2 จะให้อีก 3 แสน ดิฉันหน้าเสียที่เขาพูดเช่นนี้ เพราะมันหมายถึงการหักหลังพี่หลง ตุ้ยคงแค้นทั้งดิฉันและพี่หลงจึงเอ่ยปากมาเช่นนี้ ตุ้ยย้ำต่อว่า เงินจำนวน 5 แสนไม่ใช่น้อย ไปกู้แบงก์ก็ไม่ใช่ง่ายๆ หากให้ไปแล้วไม่มีทางใช้คืนหนี้ก็คงสูญ เขาพูดเหมือนรู้ใจดิฉันว่า ดิฉันคงหมดสิ้นหนทางแล้วแน่นอน จึงแบกหน้ามาหาเขา

ตุ้ยให้ดิฉันกลับไปคิดก่อน หากตกลงใจได้ก็มาหาเขาได้ทันที ดิฉันลุกขึ้นจากเขาไปอย่างหัวเสีย ตลอดเส้นทางกลับบ้านดิฉันได้แต่คิดเรื่องนี้ตลอด เมื่อกลับถึงบ้าน ดิฉันแทบช็อก เพราะพี่หลงเหมือนคนบ้า เขาเดินกระสับกระส่ายไปมาตลอด เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ เขาร้องลั่นเหมือนคนหวาดหวั่นขวัญผวาอย่างหนัก ดิฉันถามเขาด้วยความตกใจ เขาสารภาพว่า พวกเจ้าหนี้พนันบอลมันตามมาตลอด พวกมันทั้งขู่และเตรียมหาทางสั่งสอนหากว่าโดนชักดาบ พี่หลงจับร่างดิฉันเขย่าจนรู้สึกเจ็บ เขาถามเรื่องเงินว่า หาให้เขาได้รึยัง แค่ดิฉันส่ายหัวเท่านั้น เขาก็ผลักดิฉันจนแทบล้ม

คืนนั้นเราแทบไม่ได้พูดกัน จนรุ่งเช้าดิฉันตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอพี่หลง เขาไม่ได้ทิ้งโน้ตบอกว่าจะไปไหน ดิฉันกลุ้มใจเรื่องครอบครัว จนทานข้าวไม่ลง ก่อนตัดสินใจยอมโทร.ไปหาตุ้ยอีกครั้งหนึ่ง ตุ้ยยอมมาพบดิฉัน เขาพาดิฉันไปทานอาหารหรู เหมือนไม่มีอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อดิฉันเอ่ยปากหยิบยืมเงินเขาอีกครั้ง และรับปากจะ รีบนำเงินมาคืนให้ เขาก็ปฏิเสธเด็ดขาด เขาย้ำอยากให้ดิฉันทำตามข้อตกลงดีกว่า

ดิฉันอึ้งไปพักใหญ่ เมื่อนึกถึงภาพพี่หลงเมื่อวาน ดิฉันจึงตอบตกลงกับตุ้ยทันที ตุ้ยลืมตาโพลง เขายิ้มอย่างผู้มีชัย เขาบอกว่า หลังอาหารเที่ยงเขาจะพาดิฉันไป ระหว่างทางที่ตุ้ยพาดิฉันขึ้นรถไป ใจดิฉันคิดเรื่องต่างๆ นานา จนกระทั่งเขาพามาที่โรงแรมหรูริมน้ำแห่งหนึ่ง ดิฉันนั่งรอที่ล็อบบี้ไม่นาน เขาก็พาดิฉันขึ้นลิฟต์ไปชั้น 8 ทันที ดิฉันยอมรับว่าตั้งแต่ดิฉันรู้จักกับตุ้ยและไปไหนมาไหนด้วยกัน มีครั้งนี้แหละที่ดิฉันตื่นเต้นและหวั่นใจที่สุด เมื่อเข้าไปในห้อง ดิฉันยอมรับว่า ห้องที่เขาเลือกมันดูดีมีระดับมาก สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสวยงาม

เขาถามว่า อยากกินอะไรไหม ดิฉันส่ายหัวก่อนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ดิฉันเปลื้องผ้าออกหมด ใช้ผ้าเช็ดตัวพันร่างออกมาจากห้อง เขามองดิฉันด้วยสายตาหื่นกระหายและพยายามจะเข้ามาถูก เนื้อต้องตัวดิฉัน ดิฉันจึงเดินไปที่เตียงแล้วนอนคว่ำหน้าลง ดิฉันอยากหลับตา ไม่อยากนึกว่าอีกแค่ชั่วอึดใจ ดิฉันกำลังทำเรื่องเลวร้ายต่อพี่หลง ขณะกำลังคิดอย่างสับสน ตุ้ยก็เอามือมาสัมผัสต้นขาจนดิฉันสะดุ้ง มือสากๆ ของเขาเริ่มสัมผัสไต่มาตามขาจนถึงหน่อง ดิฉันรู้สึกวาบหวิวอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นเขาก็สอดมือมาปดปมผ้าขนหนูก่อนดึงมันออกจนดิฉันเปลือยเปล่า ดิฉันหลับตาปี๋ เริ่มรู้สึกอายเต็มที่ เขาเริ่มจุมพิศตามตัว เริ่มจากแผ่นหลังไล่มาจนถึงบั้นท้าย เขาบีบมันด้วยมืออย่างเมามัน ก่อนนำหน้าเข้าซุกไซ้ปากประตูหลังทันที

ดิฉันสะดุ้งเป็นระยะๆ ยามที่ปลายชิวหาของตุ้ยสัมผัสโดนทางออก มันเป็นความสุขครั้งใหม่ที่ดิฉันไม่เคยรับรู้มาก่อนในชีวิต เขาบรรจงทำมันอยู่นานจนรู้สึกสาแก่ใจ เขาก็จับร่างดิฉันพลิกหงายทันที ร่างที่ปราศจากอาภรณ์ของดิฉันถูกเขาเห็นอย่างหมดจด ภายในห้องที่เปิดไฟอย่างสว่าง บวกกับแสงแดดยามบ่ายมันทำให้ร่างกายของดิฉันเปิดเผยต่อเขาเต็มที่ ดิฉันพยายามเอามือมาปิดส่วนล่างไม่ให้เขาเห็น เมื่อเหลือบมองเขาอย่างเต็มตา ร่างของเขาก็เปล่าเปลือยเช่นกัน

ตุ้ยแกะมือดิฉันออก เขาฝังหน้าเข้าที่หว่างขาของดิฉัน เขายกขาของดิฉันทั้งสองข้างวางไว้ที่บนบ่าของเขา ใบหน้าของตุ้ยจึงฝังแน่นอยู่ที่ของรักของหวง ของดิฉัน เต็มๆ ดิฉันพยายามจะเอามือมาผลักหน้าเขาออก แต่ก็ถูกตุ้ยจับมือทั้งสองข้างไว้ เขากดมันไม่ให้ดิฉันขยับเขยื้อน จากนั้นตุ้ยเริ่มเร่งปลายลิ้น เข้าใส่จุดสำคัญจนดิฉัน ต้องเผลอตัวส่งเสียงร้องออกมา เสียงครวญครางของดิฉน ยิ่งปลุกเร้าการกระทำของตุ้ย เขายิ่งฝังหน้าแน่นชนิดที่ไม่กลัวขาดอากาศหายใจ ดิฉันดิ้นพล่านแอ่นร่างดุจสะพานโค้งเพื่อตอบสนองการก ระทำของเขา จนกระทั่งร่างกายตอบรับไม่ไหว บรรลุเป้าหมายไปในที่สุด ดิฉันยังไม่ทันหายเหนื่อย เขาก็รีบโถมตัวมาทับร่างของดิฉันและสอดใส่อาวุธประจำ กายเข้าในร่างของดิฉันทันที

มันมีขนาดสูสีกับของพี่หลง แต่เมื่อเขาเริ่มขยับร่าง ดิฉันจึงรู้สึกทันทีว่าขนาดของมัน ยาวกว่าแน่นอน ตุ้ยกระแทกมันอย่างรุนแรง เขาทำให้ดิฉันสะใจ ก่อนพลิกร่างจู่โจมด้านหลัง ท่วงท่านี้เองมันทำให้ดิฉันส่งเสียงร้องอย่างไม่หยุด และเป็นท่าที่ทำให้เรา ทั้งคู่จบเกมรักในครั้งนี้ เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาภายใน จนแผ่นหลังของดิฉันเปรอะไปหมด เราทั้งคู่นอนพักอย่างหมดแรง สักพักดิฉันเริ่มหายเหนื่อยจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกาย ดิฉันมองภาพตัวเองในกระจกด้วยความเสียใจ ร่างกายของดิฉันตกเป็นของคนอื่นอย่างไม่พร้อมใจ เมื่อกลับออกมาจากห้องน้ำ ตุ้ยยื่นเช็คจำนวน 2 แสนบาทให้ดิฉัน เราทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีก

เย็นวันนั้น พี่หลงกลับมาบ้าน ดิฉันยืนเช็คให้เขาด้วยความดีใจ แต่เมื่อพี่หลงมองเห็นตัวเลข เขาก็เริ่มไม่พอใจ เขาย้ำว่าเงินแค่สองแสนจะไปพอใช้หนี้ได้ยังไง ดิฉันบอกว่า ขอเวลาอีกสองวันจะหามาให้ครบตอนนี้กำลังหยิบยืมเพื่อนอยู่ เขาไม่พูดอะไรมาก เขารับเช็คไปอย่างไม่สนใจเท่าใดนัก ช่วงหัวค่ำ พี่หลงแต่งตัวอย่างดีเตรียมออกจากบ้าน ดิฉันเห็นผิดสังเกตเพราะเขาฉีดน้ำหอมอย่างดี เมื่อถามเขา เขาก็เลี่ยงบอกจะไปทำธุระ เขากลับมาบ้านตอนดึก ดิฉันเห็นรถที่มาส่งเป็นรถหรู มีผู้หญิงขับ เมื่อดิฉันถามเขา เขาก็โวยวายหาว่า ดิฉันไปแส่เรื่องส่วนตัวของเขา ดิฉันพยายามซัก สุดท้ายเขาก็สารภาพที่ทำให้ดิฉันช็อกว่า ผู้หญิงคนนั้นจะช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้ให้เขาได้ เพราะเธอชอบและกำลังคบกัน ดิฉันเสียใจที่เขาพูดมาแบบนี้จึงผลุนผลันออกจากบ้านด้วยความโกรธ เมื่อได้สติดิฉันก็ไม่รู้จะไปไหน ได้แต่นั่งรถแท็กซี่ไปตามทางเรื่อยๆ ก่อนที่ตัดสินใจโทร.ไปหาตุ้ยทันที

ตุ้ยมารับดิฉันที่ห้างๆ หนึ่งย่านชานเมือง เขาพาดิฉันที่นั่งร้องไห้ตลอดทางไปนอกเมือง เขาถามว่า อยากไปที่ไหน ดิฉันส่ายหัวบอกว่า ไม่รู้แล้วแต่เขา เขาจึงพาออกไปต่างจังหวัดทันที ตุ้ยพาดิฉันไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ทันทีที่เข้าห้องพัก เขาก็รุกเร้าดิฉันทันที ดิฉันยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกตุ้ยระดมจูบไม่ยั้ง จนร่างกายอ่อนปวกเปียกแทบยืนไม่ได้ เขาเลยถือโอกาสอุ้มดิฉันไปที่เตียง ก่อนปลดอาภรณ์ออกจากกายดิฉันอย่างรวดเร็ว หลงเหลือชั้นในบางๆ สองตัวห่อหุ้มร่างกาย วินาทีนั้นเองดิฉันก็รู้สึกอยากระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจอย่างเต็ม ที่ ดิฉันลุกขึ้นพลิกจับตุ้ยนอนลง ก่อนโถมทับเขาพร้อม ปดเสื้อผ้าเขาออกจนหมด ก่อนก้มหน้าฮุบความเป็นชายเขาทันที ตุ้ยคงไม่คิดว่าดิฉันจะกล้าทำแบบนี้ เขาไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกดิฉันโจมตีด้วยปากและมืออย่างต่อเนื่อง จนร้องครวญครางไม่เป็นภาษามนุษย์

เมื่อเห็นมันแข็งตัวได้ที่ ดิฉันก็ปลดบราเซียร์และบิกินีตัวจิ๋วออก จากนั้นก็ขึ้นนั่งค่อมเขา ดูเหมือนว่า ตุ้ยยังไม่เชื่อกับสายตาตัวเอง เขาถูกดิฉันสะกดความเป็นชายแค่ไม่กี่นาที ก็สำรอกพิษที่คั่งค้างในตัวเขาออกมามากมาย ส่วนตัวดิฉันแม้ไม่ยังไม่สมมาตรปรารถนา แต่มันก็คลายความเครียดเรื่องพี่หลงไปมาก ตุ้ยหันมาสวมกอดดิฉันสักพัก ก่อนที่เขาจะใช้มือช่วยให้ดิฉันถึงที่หมายตามเขา ไปเช่นกัน

วันรุ่งขึ้นดิฉันกลับบ้านก็ยังไม่พบพี่หลง คาดว่าอนาคตระหว่างเราก็คงอยู่ร่วมกันได้ไม่นานแล้ว ดิฉันมองเช็คสองใบในมือแล้วรู้สึกเศร้าใจ ก่อนนำไปเก็บไว้ในเซฟอย่างดี มันเป็นเงินที่ดิฉันหามาที่กึ่งหนึ่งเป็นความยินยอมพ ร้อมใจของดิฉันเองแท้ๆ